ลักษณะรอยแตกร้าวของอาคารเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาอาคารวิบัติได้

อาคารที่มีเสียงลั่นเป็นระยะๆ พร้อมกับมีคอนกรีตร่วง แสดงว่าโครงสร้างของอาคารเริ่มแบกภาระไม่ไหว รอยต่อของโครงสร้างจะเริ่มแยกขาดจากกัน และถ้ารอยต่อของอาคารขาดจากกันเมื่อใด อาคารจะมีโอกาสพังถล่มค่อนข้างมาก
จากประสบการณ์ที่เคยเข้าไปช่วยกู้ภัยหลายครั้ง พบเห็นอาคารที่พังถล่มมีตำแหน่งขาดตรงรอยต่อของโครงสร้างเป็นส่วนใหญ่
เสียงลั่นของอาคารเป็นสัญญาณเตือนที่บ่งบอกให้อพยพคนออกจากอาคารเป็นการด่วน รวมถึงไม่ควรเข้าไปในอาคารที่ยังมีเสียงลั่นอยู่ สำหรับการจะเข้ากู้ภัยควรรอให้อาคารเกิดการแตกหักในระดับหนึ่งแล้วเกิดสมดุลใหม่ก่อน จึงจะเข้าไปภายในได้ ซึ่งตรงนี้ควรมีการตรวจวัดการขยับตัวตลอดเวลา
ในเบื้องต้นที่ยังเข้าอาคารไม่ได้ สามารถจำแนกหาตำแหน่งชำรุดเสียหายที่เกิดขึ้นในอาคารได้จากสภาพแตกร้าวที่ปรากฏภายนอกอาคาร ดังเช่นอาคารที่แสดงรูปประกอบมานี้ เป็นอาคาร 3 ชั้นจำนวน 7 ห้อง เมื่อดูรอยแตกร้าวจะพบเป็นรอยแตกเฉียงห้องที่ 1 กับห้องที่ 7 เป็นรอยแตกเฉียงซึ่งมีทิศทางกลับทิศทางกัน นั่นแสดงให้เห็นว่าห้องที่อยู่ตรงกลางมีการขยับยุบตัวลง ซึ่งอาจเกิดจากฐานรากทรุดตัวหรือเสาอาคารห้องที่อยู่บริเวณส่วนกลางระหว่างห้องที่ 1 กับห้องที่ 7 ระเบิดออก
เมื่อนำกล้องสำรวจมาส่องเพื่อดูการขยับตัว โดยตรวจวัดการขยับตัวที่ห้องตรงกลางระหว่างห้องที่ 1 กับห้องที่ 7 พบว่ามีการทรุดตัวในช่วง 15 นาทีแรกวัดการทรุดตัวได้ 0.7 มม และอีก 15 นาทีต่อมาตรวจวัดอีกครั้ง พบว่าทรุดตัวลงเพิ่มอีก 1 มม. ผลตรวจวัดในเบื้องต้นดังกล่าวนี้แสดงว่าอาคารขยับยุบตัวหรือทรุดตัวลงเร็ว
ผลจากการวิเคราะห์รอยร้าวดังกล่าวทำให้สามารถบ่งบอกได้ว่าตำแหน่งใดเป็นตำแหน่งที่เกิดปัญหา และทำให้ในช่วงเวลาเร่งด่วนสามารถกำหนดตำแหน่งสำรวจได้ตรงจุดของปัญหาที่เกิด
ลักษณะรอยแตกร้าวของอาคารเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยให้สามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาอาคารวิบัติได้